มอเตอร์โชว์: รวมมอเตอร์ไซค์ Adventure ยอดฮิต ราคาไม่เกิน 5 แสน คันไหนคุ้มสุด?สำหรับสายลุยหรือรถในประเภท Adventure ที่หลายคนเกิดความชื่นชอบอยากออกท่องเที่ยว รักการผจญภัย ก็คงที่จะต้องมองหาบิ๊กไบค์ที่มีลักษณะหรือประเภทที่ตอบโจทย์ตัวเองไม่มากก็น้อย และที่สำคัญราคาเอื้อมง่าย สมรรถนตอบโจทย์ และยิ่งเป็นมือใหม่ หรือเพิ่งเริ่มต้นขี่รถประเภทนี้ คงต้องศึกษาข้อมูลพอสมควรเพราะคุณต้องพอมีทักษะ และเตรียมพร้อมรับมือในสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในแบบไม่ทันตั้งตัว รวมไปถึงถ้าคุณเป็นประเภทเข้าป่าสายลุย คู่หูของคุณก็ต้องพร้อมที่จะลุยไปกับคุณได้ด้วยเช่นกัน Motorbike Guru ก็เลยขอจับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ Adventure เจ้าตลาดรุ่นยอดฮิต ในงบไม่เกิน 5 แสนบาท สำหรับมือใหม่ที่อยากเอาไว้ใช้ออกทริปและขี่ในชีวิตประจำวัน มาเปรียบเทียบให้เห็นราคา สเปค แต่ละรุ่นว่าคันไหนจะคุ้มค่าสำหรับคุณ...
1. CFMOTO 650 MT STD ราคา 188,000 บาท
สำหรับ CFMOTO มอเตอร์ไซค์แบรนด์จีนที่เข้ามาทำตลาดในไทย ส่งบิ๊กไบค์ชิงชัยทั้งหมด 4 รุ่น รวมไปถึงเจ้า CFMOTO 650 MT คันนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยราคาที่ถูกกว่าชาวบ้าน (ไม่ถึง 2 แสน) แต่ได้พละกำลังเครื่องยนต์ 649 ซีซี 2 สูบ 67 แรงม้า ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 18 ลิตร เดินทางได้ถึง 400 กิโลเมตร ตัวรถออกแบบให้มีความคล่องตัว พร้อมเอกลักษณ์ความเป็น CFMOTO ไฟ LED รอบคัน และด้วย FARING ที่ครอบคลุมโครงรถตั้งแต่ด้านหน้าถึงด้านข้าง ทำให้รถดูมีความเป็น 3 มิติ โช้คอัพหน้าเป็นแบบ Upside Down ระบบเบรคหน้า / หลัง ABS ระบบจ่ายน้ำมันแบบ EFI พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งที่มาพร้อมกับรถเช่น การ์ดปลายแฮนด์ แคชบาร์ติดตั้งมาให้ทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง ตัวเบาะนั่งปรับสูงต่ำได้ 2 ระดับ และยังสามารถเพิ่มแร็คกล่องเก็บของได้อีกด้วย
CFMOTO 650 MT เปิดราคาเริ่มต้น 188,000 บาท และพิเศษหากต้องการเพิ่มกล่องทาง CFMOTO ก็มีกล่องพร้อมติดตั้งในราคา 204,000 บาท ถือว่าเป็นรถที่เหมาะกับคนที่เริ่มต้นมาในทางสายลุย ด้วยราคาเข้าถึงง่าย และเทคโนโลยีที่ยังไม่ซับซ้อนวุ่นวาย
2. Honda CB 500X ราคา 224,900 บาท
เป็นอีก 1 รุ่นยอดนิยมสำหรับคนที่เริ่มต้นอยากมีบิ๊กไบค์ Adventure ไว้ขี่แบบไม่เน้นสมบุกสมบัน Honda CB500X MY22 รุ่นปรับปรุงล่าสุด ด้วยพละกำลังพอเหมาะพอมือ และน้ำหนักรถที่ไม่หนักเกินไป 199 กก. รวมไปถึงราคาที่เจ้าตลาดยังคงตรึงไว้เท่าเดิมคือ 224,900 บาท ทำให้เป็น 1 ในตัวเลือกที่หลายคนจับตามมองเป็นอันดับต้นๆ
Honda CB500X MY22 จัดเต็มด้วยอุปกรณ์ใหม่ และการปรับจุดสำคัญในหลายๆ จุด เช่น ไฟหน้า LED ใหม่สว่างกว่าเดิม 25% โช้คหัวกลับ Showa คู่หน้าเพิ่มความยาวกระบอกโช้คในการยืดยุบ เพื่อเหมาะกับสไตล์ Adventure, ดิสก์เบรกหน้าคู่พร้อมคาลิปเปอร์แบบ Twin Piston 2 Pots, ล้อแม็กดีไซน์ใหม่ลดจำนวนก้าน ขนาด 19 นิ้ว เพื่อให้รถบาลานซ์, คานยึดแนวแกนล้อหลังหรือแชสซีส์ขยายให้กว้างเพื่อให้บาลานซ์กับโช้คหน้าคู่ใหม่
ขุมพลังเครื่องยนต์เดิมเครื่องยนต์ 471 ซีซี 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ รวมถึงการออกแบบและสีสันใหม่ทั้งคัน เพิ่มตัวเลือก 3 สี ได้แก่ Grand Prix Red, สี Pearl Organic Green และสี Mat Gunpowder Metallic
3. Kawasaki Versys 650 ABS ราคา 329,500 บาท
มากันที่ค่ายยักษเขียว Kawasaki ขอส่งชิงชัยในรุ่น Versys 650 ABS หลายคนที่ชื่นชอบดีไซน์เป็นหลักอาจจะมองว่าเจ้าเวอร์ซิส ไม่หล่อบาดใจเท่าไหร่ แต่ทว่าก็ยังเป็นที่นิยมของเหล่าไบค์เกอร์สายเที่ยวไม่น้อยไปกว่ารุ่นอื่นๆ เช่นกัน
Versys 650 (เวอร์ซิส) เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ขนาด 649 ซีซี 69 แรงม้า มาพร้อมระบบกันสะเทือนสำหรับที่เหมาะกับการขับขี่ระยะไกล (ความพิเศษของมัน) ที่ลุยได้ทุกสภาพถนนแม้กระทั่ง หลุม บ่อ เนิน หรือถนนกรวด โช้คอัพเป็นแบบ Up side down ล้อขนาด 17 นิ้ว แบบรถแข่ง ตัวรถออกแบบรูปทรงให้ดูเพรียวบาง เบาะนั่งถูกปรับให้อยู่ตำแหน่งท่านั่งตรง เหมาะที่จะเป็นรถที่ขับขี่ในชีวิตประจำวัน และท่องเที่ยว อีกทั้งพละกำลังอยู่ในระดับกลาง ซึ่งก็เหมาะกับคนที่พอจะมีทักษะในการขี่บิ๊กไบค์มาบ้างเพราะด้วยการออกแบบ และขนาดที่ดูบึกบึน ทะมัดทะแมง แต่ก็เน้นให้ขี่แบบชิลๆ สบายๆ อีกทั้งราคายังจ่ายง่าย ขายคล่องเริ่มต้นที่ 329,500 บาท ก็เชื่อว่ายังเป็นอีก 1 ตัวเลือกในใจของใครหลายคนเช่นกัน
4. Suzuki V-Strom 650XT ราคา 371,000 บาท
อีกรุ่นที่ฮิตติดอันดับต้นๆ ของไทยอีกเช่นกันกับค่ายรถคนบ้าขี่ซู Suzuki V-Strom 650XT รถจักรยายนต์สไตล์ทั่วริ่งแอดเวนเจอร์ขนาดกลาง มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ DOCH V-twin ขนาด 645 ซีซี 4 จังหวะ ผสานการทำงานของระบบ Low RPM Assist อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสนุก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเดินทางในทุกสภาพท้องถนน มีพละกำลังอยู่ที่ 62.2 แรงม้า (ที่ 8,800 รอบ/นาที) แรงบิดสูงสุดที่ 62 นิวตันเมตร (ที่ 6,500 รอบ/นาที)
Suzuki V-Strom 650XT 2021 ตัวเฟรมรถออกแบบด้วยวัสดุอลูมิเนียมอัลลอย ทำให้มีน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแรงสูง สามารถซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ซึ่งโฉมใหม่ปี 2021 ก็ได้ออกแบบรูปทรงให้โฉบเฉี่ยวเพรียวบางมากขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะการควบคุมและบังคับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมิติตัวรถมีขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) 910 x 2,275 x 1,405 มิลลิเมตรมีความสูงเบาะนั่งที่ 835 มิลลิเมตร ตัวถังน้ำมันสามารถจุได้ 20 ลิตร น้ำหนักโดยรวมของตัวรถอยู่ที่ 216 กิโลกรัม ถือว่าทั้งขนาด และพละกำลังและดีไซน์อยู่ในเกณฑ์พอเหมาะพอมือ บวกสมรรถนะและเทคโนโลยีต่างๆ ก็เป็นอีก 1 ตัวเลือกของสาวกค่ายซูเช่นกัน
5. Yamaha Tenere 700 ราคา 439,00 บาท
Yamaha Tenere 700 คือแอดเวนเจอร์บิ๊กไบค์ขนาดกลางที่พัฒนาใหม่ มีสไตล์ที่แตกต่างจากทั่วไป เพราะได้แรงบันดาลใจการออกไปเหมือนตัวแข่งแรลลี่จากรายการดาการ์ที่โด่งดัง ดูดุดันด้วยไฟ LED 4 ดวง ตัวรถมีความปราดเปรียวเพรียวลม ถังน้ำมัน 16 ลิตรก็ออกแบบเชฟให้เข่าหนีบง่าย เบาะก็ออกแบบให้โค้งแบนราบตามแนวโครงรถง่ายต่อการโยกย้ายถ่ายน้ำหนักผู้ขี่เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 689 ซีซี ที่ใช้ใน Yamaha MT-07 คันนี้ มาพร้อมพละกำลัง 72 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 68 นิวตันเมตร บนน้ำหนักตัว 204 กก ก็ถือทำน้ำหนักตัวมาดีถ้าเทียบกับสเปคที่น้อยกว่าในบางค่าย
ด้วยราคา 439,000 บาท อาจดูสูง แต่ด้วยสเปคบวกกับอิมเมจตัวแข่งดาการ์ จึงทำให้ Tenere 700 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้รุ่นอื่นๆ เลยทีเดียว ทั้งนี้ Yamaha Tenere 700 ยังมาพร้อมชุดแต่งจาก Touratech ในรุ่น Advanture Edition ในราคา 493,000 บาท และรุ่น Black Edition ในราคา 576,700 บาท
6. BMW F 850 GS ราคา 459,000 บาท
จบด้วยรุ่นสุดท้ายกับค่ายใบพัดส่งน้องใหม่ไซส์กลาง BMW F 850 GS อีกหนึ่งตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักผจญภัยที่มองหาเพื่อนสองล้อคู่ใจ BMW แบรนด์ยุโรป ที่รู้จักกันดี เป็นเสมือนเครื่องการันตีถึงความเป็นมาตรฐาน เทคโนโลยี และอุปกรณ์อะไหล่ ที่ดีกว่าในบางชิ้น ซึ่งค่ายนี้ก็ยังเป็นที่ต้องการของเหล่าไบคเกอร์ แม้ราคาจะสูงกว่าเจ้าตลาด แต่ก็แลกมากับความเป็นที่สุดที่ไบค์เกอร์สายลุยต้องยอม
BMW F 850 GS ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 สูบ, 4 วาล์ว/สูบ ความจุ 853 ซีซี 95 แรงม้า ที่ 8,250 รอบ/นาที แรงบิด 92 นิวตัน ที่ 6,250 รอบ/นาที ด้วยตัวถังน้ำหนักเบาและระบบช่วงล่างที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับการขับขี่แบบ Enduro ผนวกกับคุณสมบัติด้านเสถียรภาพและความสะดวกสบายในการขับขี่ทางไกล กระจกกันลมขนาดใหญ่ขึ้น สามารถปรับได้ 2 ระดับ รวมถึงการ์ดแฮนด์ เพิ่มการป้องกันจากสภาพลมและฝนให้แก่ผู้ขับขี่ ไฟหน้า LED ที่วางเท้าแบบเอนดูโร่ คันคลัทช์และเบรกปรับได้ โครงป้องกันเครื่องยนต์ และที่วางสัมภาระด้านท้ายในวัสดุสแตนเลสสตีลยังได้รับการติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบเบรก ABS ที่สามารถเลือกเปิด-ปิดระบบได้ และระบบรักษาเสถียรภาพ ASC Automatic Stability Control เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ และเพิ่มโช้คหัวกลับสีทอง ชิลหน้าใหญ่ขึ้น หากใครสนใจหรือหาตัวแทนจำหน่ายก็สามารถเข้ามาชมได้
สุดท้ายการเลือกซื้อรถก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบ การใช้งานบวกทักษะที่คุณมี ค่อยเริ่มและไต่ระดับไปตามประสบการณ์ และที่สำคัญงบประมาณของคุณที่จะเลือกแบบไหนไม่ให้ปวดหัวหรือเจ็บตัวทีหลัง เพราะเชื่อว่าซื้อบิ๊กไบค์คงไม่จบแค่แบบเดิมๆ มันต้องมีควักซื้อมาตกแต่งเพิ่มเติมกันบ้างแหละ และที่สำคัญการขี่มอเตอร์ไซค์แบบเนื้อหุ้มเหล็ก อุปกรณ์เซฟตี้ต่างๆ ควรจะต้องมี ต้องใส่ หากคุณเดินทางไกลอย่างน้อยก็ช่วยป้องกันให้การเกิดอุบัติเหตุบรรเทาเบาบาง คนที่บ้านก็จะได้อุ่นใจ เพราะคุณคงไม่อยากเห็นคนที่คุณรักเป็นทุกข์ใช่ไหมละคะ