เบบอร์ดขาย เช่า บริการ ลด แลก แจก แถม แห่งใหม่ ลงประกาศได้ไม่จำกัด

หมวดหมู่ทั่วไป => ลงประกาศฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 6 กรกฎาคม 2025, 14:28:08 น.

หัวข้อ: Doctor At Home: ปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy)
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 6 กรกฎาคม 2025, 14:28:08 น.
Doctor At Home: ปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy)  (https://doctorathome.com/)

ปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy) คือภาวะที่เกิดจากความผิดปกติหรือความเสียหายของ เส้นประสาทส่วนปลาย ซึ่งมีหน้าที่ส่งสัญญาณไฟฟ้าจากสมองและไขสันหลังไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น แขน ขา มือ เท้า และอวัยวะภายใน รวมถึงรับสัญญาณความรู้สึกจากร่างกายกลับไปยังสมอง เมื่อเส้นประสาทเหล่านี้เสียหาย ก็จะส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา

อาการของปลายประสาทอักเสบ
อาการของปลายประสาทอักเสบจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดของเส้นประสาทที่ได้รับผลกระทบ (เส้นประสาทรับความรู้สึก, เส้นประสาทสั่งการ, หรือเส้นประสาทอัตโนมัติ) และความรุนแรงของความเสียหาย อาการที่พบบ่อยได้แก่:


อาการทางด้านความรู้สึก:

ชา, เหน็บชา: รู้สึกชาตามมือ เท้า หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย คล้ายมีอะไรไต่ยิบๆ

ปวดแสบปวดร้อน: รู้สึกแสบร้อน, เจ็บแปลบเหมือนถูกเข็มทิ่ม หรือคล้ายไฟช็อต

ไวต่อการสัมผัสผิดปกติ: แค่สัมผัสเบาๆ หรือสวมเสื้อผ้าก็รู้สึกเจ็บปวด

สูญเสียการรับรู้ความรู้สึก: ไม่รู้สึกถึงอุณหภูมิ ความเจ็บปวด หรือการสั่นสะเทือน


อาการทางด้านการเคลื่อนไหว:

กล้ามเนื้ออ่อนแรง: อ่อนแรงที่แขน ขา มือ หรือเท้า อาจทำให้เดินลำบาก หรือยกของไม่ได้

กล้ามเนื้อฝ่อลีบ: หากเป็นเรื้อรัง อาจเห็นกล้ามเนื้อเล็กลง

สูญเสียการทรงตัว: ทำให้เดินเซ หกล้มง่าย

เป็นอัมพาต: ในกรณีที่เส้นประสาทสั่งการเสียหายรุนแรงมาก

อาการของเส้นประสาทอัตโนมัติ (ควบคุมการทำงานอวัยวะภายใน):

เหงื่อออกผิดปกติ (ออกมากเกินไปหรือไม่สามารถขับเหงื่อได้)

ความดันโลหิตต่ำเมื่อเปลี่ยนท่า (หน้ามืด เวียนศีรษะ)

มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น ท้องผูก ท้องเสีย ท้องอืด

ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ หรือการทำงานของลำไส้

สมรรถภาพทางเพศลดลง

สาเหตุของปลายประสาทอักเสบ
ปลายประสาทอักเสบสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งบางครั้งอาจไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน แต่สาเหตุที่พบบ่อยได้แก่:

โรคเบาหวาน: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด น้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังทำลายเส้นประสาท

การขาดสารอาหาร: โดยเฉพาะการขาดวิตามินบี 1 (ไทอามีน), บี 6, บี 12, และวิตามินอี ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของเส้นประสาท

การติดเชื้อ: เช่น เริม, งูสวัด, ไวรัส HIV, โรคไลม์ (Lyme disease)

การบาดเจ็บ: เช่น การกดทับเส้นประสาท (หมอนรองกระดูกทับเส้น, อุโมงค์ข้อมืออักเสบ), การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุ

การสัมผัสสารพิษ/ยาบางชนิด: เช่น พิษจากแอลกอฮอล์, โลหะหนัก (ตะกั่ว, สารหนู), ยาเคมีบำบัดบางชนิด, ยาบางประเภท

โรคภูมิต้านทานตนเอง (Autoimmune diseases): เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE), กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barré syndrome), โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

โรคไตหรือโรคตับเรื้อรัง: ทำให้มีการสะสมสารพิษในร่างกาย


ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน:

โรคมะเร็งบางชนิด: อาจกดทับเส้นประสาท หรือเกิดจากผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง

การดื่มแอลกอฮอล์จัด: ทำให้ขาดวิตามินและมีพิษต่อเส้นประสาท

พันธุกรรม: บางคนอาจมีแนวโน้มทางพันธุกรรมที่จะเป็นโรคนี้

การรักษาปลายประสาทอักเสบ
การรักษาปลายประสาทอักเสบจะเน้นไปที่การ รักษาตามสาเหตุ และ บรรเทาอาการ โดยมีแนวทางดังนี้:


รักษาสาเหตุที่ต้นเหตุ:

ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานให้ดี

เสริมวิตามินในกรณีที่ขาด

รักษาการติดเชื้อ

หยุดยาหรือหลีกเลี่ยงสารเคมีที่เป็นสาเหตุ

รักษาโรคประจำตัวอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุ


การรักษาด้วยยา:

ยาแก้ปวด: ยาแก้ปวดทั่วไป, ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)

ยาบรรเทาอาการปวดปลายประสาท: เช่น ยาในกลุ่มยากันชัก (Gabapentin, Pregabalin) หรือยาต้านอาการซึมเศร้าบางชนิด ที่มีฤทธิ์ช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อน ปวดแปลบๆ

ยาฉีด: ฉีดยาชาหรือยาบรรเทาการอักเสบไปยังบริเวณเส้นประสาทที่มีปัญหา

ยาทา: ครีมหรือขี้ผึ้งที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดอาการปวด (เช่น แคปไซซิน)


การบำบัดและฟื้นฟู:

กายภาพบำบัด: เพื่อช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ, การทรงตัว, และการเคลื่อนไหว

การกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้า (TENS): การใช้กระแสไฟฟ้าอ่อนๆ กระตุ้นเส้นประสาทผ่านผิวหนังเพื่อลดอาการปวด

การบำบัดทางอาชีพ: เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้สะดวกขึ้น


การผ่าตัด:

ในบางกรณีที่เส้นประสาทถูกกดทับ (เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือกลุ่มอาการอุโมงค์ข้อมือ) อาจพิจารณาการผ่าตัดเพื่อลดการกดทับ


การดูแลตนเอง:

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีประโยชน์ และอาจเสริมวิตามินบีรวมตามคำแนะนำของแพทย์

หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่

สวมรองเท้าที่พอดีและสบาย เพื่อป้องกันการกดทับเส้นประสาทที่เท้า

ดูแลผิวหนังให้ดี โดยเฉพาะบริเวณที่ชา เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหรือแผลที่ไม่รู้สึกตัว

ควบคุมน้ำหนักและจัดการความเครียด

หากคุณหรือคนรู้จักมีอาการที่เข้าข่ายปลายประสาทอักเสบ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนครับ